สิ่งที่สร้างความสุขใจก็มีอยู่หลายอย่าง การเลี้ยงต้นไม้น้ำก็เป็นทางหนึ่งที่จะช่วยทำให้สุขภาพจิตของเราดีขึ้น มาดูกันว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น การเลี้ยงพรรณไม้น้ำเปรียบเสมือนการพักผ่อนอย่างนึง เมื่อคุณทำงานมาเหนื่อย ๆ มองไปที่ตู้พรรณไม้น้ำ ความเหนื่อยอ่อนก็สามารถบรรเทาลงไปได้มาก เป็นเพราะความเป็นธรรมชาติ ความอ่อนไหว และสีสันที่ช่วยผ่อนคลายสายตา อีกทั้งยังเสริมสร้างกินจกรรมภายในครอบครัวได้อีกทาง (เมื่อต้องช่วยกันตกแต่งตู้พรรณไม้น้ำ) การเลี้ยงพรรณไม้น้ำบางท่านคิดว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก มีเครื่องมือมากมายแต่ก็นี่ละครับศิลปะ ท่านต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ความตั้งใจ ความอดทน เพื่อความสำเร็จ และเมื่อได้มองความสำเร็จที่เกิดก็คิดแล้วคุ้มค่าครับ เรามาดูกันว่าทั้งหมดต้องมีอะไรกันบ้าง
อุปกรณ์
อุปกรณ์นับเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้พรรณไม้น้ำเจริญเติบโตได้ดี มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ตู้ปลูกเลี้ยง ควรเป็นตู้ที่ไม่สูงเหมือนกับตู้เลี้ยงปลาทั่ว ๆไป (แต่ตู้ปลาปกติก็ใช้ได้) เนื่องจากการส่งสว่างของแสงจะไม่ทั่วถึง และสัสดูของตู้ก็มีอยู่ 2 แบบด้วยกันคือ แบบกระจกธรรมดา และ อคริลิค แบบกระจกธรรมดาจะมีราคาถูกว่ามาก แต่เป็นรอยขูดขีดได้ง่าย และตัวของตู้จะมีรอยต่อ ต่างจากแบบอคริลิค ที่จะไม่มีรอยต่อของตู้และทนทานรอยขูดขีดสูง แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย ตู้ในปัจจุบันมีกการออกแบบมาสวยงามสามารถใช้เป็นฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านอย่างสวยงาม คุณสามารถเลือกแบบได้ตามความเหมาะสม
ระบบส่องสว่าง นับเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพรรณไม้น้ำที่สุด เพราะพืชต้องการแสงเพื่อใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง ดังนั้นหลอดไฟที่ใช้ควรมีความสามารถเลียนแบบแสงจากธรรมชาติมากที่สุด โดยปกติเราจะให้แสงสว่างกับพรรณไม้น้ำนานประมาณ 10-12 ชั่วโมง และกำลังงานประมาณ 0.7 วัตต์/น้ำ 1 ลิตร (สำหรับหลอดฟลูออเรสเซนต์) จุดสำคัญที่ควบคู่ไปกับแสงคือ เมื่อแสงเพียงพอ ต้นไม้น้ำมีการสังเคราะห์ได้เร็ว ก็อย่างลืมปุ๋ยหรือสารอาหารต่าง ๆ ใส่ลงไปด้วย แสงสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด 1.จากธรรมชาติ 2.จากอุปกรณ์ที่สร้างแสง
1.แสงจากธรรมชาติ
จะมีข้อดีตรงไม่ต้องซื้อหาและมีสิ่งที่พรรณไม้น้ำต้องการอยู่ครบถ้วน แต่นั้นก็หมายความว่าคุณต้องเอาตู้ไปตั้งไว้กลางแดด และนั้นก็คงจะไม่เหมาะนัก และอุณหภูมิก็เป็นอีกปัญจัยหนึ่งที่ปลาสวยงามของเราจะตายได้ด้วย
อุปกรณ์
อุปกรณ์นับเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้พรรณไม้น้ำเจริญเติบโตได้ดี มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ตู้ปลูกเลี้ยง ควรเป็นตู้ที่ไม่สูงเหมือนกับตู้เลี้ยงปลาทั่ว ๆไป (แต่ตู้ปลาปกติก็ใช้ได้) เนื่องจากการส่งสว่างของแสงจะไม่ทั่วถึง และสัสดูของตู้ก็มีอยู่ 2 แบบด้วยกันคือ แบบกระจกธรรมดา และ อคริลิค แบบกระจกธรรมดาจะมีราคาถูกว่ามาก แต่เป็นรอยขูดขีดได้ง่าย และตัวของตู้จะมีรอยต่อ ต่างจากแบบอคริลิค ที่จะไม่มีรอยต่อของตู้และทนทานรอยขูดขีดสูง แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย ตู้ในปัจจุบันมีกการออกแบบมาสวยงามสามารถใช้เป็นฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านอย่างสวยงาม คุณสามารถเลือกแบบได้ตามความเหมาะสม
ระบบส่องสว่าง นับเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพรรณไม้น้ำที่สุด เพราะพืชต้องการแสงเพื่อใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง ดังนั้นหลอดไฟที่ใช้ควรมีความสามารถเลียนแบบแสงจากธรรมชาติมากที่สุด โดยปกติเราจะให้แสงสว่างกับพรรณไม้น้ำนานประมาณ 10-12 ชั่วโมง และกำลังงานประมาณ 0.7 วัตต์/น้ำ 1 ลิตร (สำหรับหลอดฟลูออเรสเซนต์) จุดสำคัญที่ควบคู่ไปกับแสงคือ เมื่อแสงเพียงพอ ต้นไม้น้ำมีการสังเคราะห์ได้เร็ว ก็อย่างลืมปุ๋ยหรือสารอาหารต่าง ๆ ใส่ลงไปด้วย แสงสามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด 1.จากธรรมชาติ 2.จากอุปกรณ์ที่สร้างแสง
1.แสงจากธรรมชาติ
จะมีข้อดีตรงไม่ต้องซื้อหาและมีสิ่งที่พรรณไม้น้ำต้องการอยู่ครบถ้วน แต่นั้นก็หมายความว่าคุณต้องเอาตู้ไปตั้งไว้กลางแดด และนั้นก็คงจะไม่เหมาะนัก และอุณหภูมิก็เป็นอีกปัญจัยหนึ่งที่ปลาสวยงามของเราจะตายได้ด้วย
2.แสงจากอุปกรณ์ มีหลอดเมทัลไฮไลด์ , ฟลูออเรสเซนต์
หลอดเมทัลไฮไลด์ เป็นหลอดมีประสิทธิภาพสูงในการส่องสว่าง แสงสามารถส่องได้ถึงพื้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับโคมไฟด้วย ที่ช่วยรวมแสงให้ไปตำแหน่งที่ต้องการได้ และการติดตั้งหลอดแบบกำลังต่ำหลาย ๆ ดวงเพื่อช่วยให้การกระจายแสงสามารถทำได้ดียิ่งขึ้น ข้อเสียของหลอดประเภทนี้คือ ความร้อน ดังนั้นควรมีการยกระดับการติดตั้งให้สูงขึ้น หรือให้มีการระบายความร้อนของหลอดได้ดี ปัจจุบันมีอุปกรณ์ติดหลอดไฟที่สามารถระบายความร้อนได้ดีด้วย
หลอดฟูลออเรสเซนต์ ที่ใช้ในการเลี้ยงพรรณไม้น้ำจะมีความแตกต่างจากหลอดไฟตามบ้านตรงที่ คลื่นของแสงสเปกตรัมของแสง คุณควรใช้ให้ถูกชนิดด้วย ่หลอดชนิดนี้ราคาถูกกว่าแบบเมทัลไฮไลด์มาก แต่การใช้งานจะอายุสั้นกว่า การใช้ควรติดตั้งกับโคมไฟ และยกให้สูงจากตู้เพื่อระบายความร้อน
สารอาหาร
เป็นสิ่งที่จะทำให้พรรณไม้น้ำเจริญเติบโตสวยงาม แข็งแรง ดังนั้นเราควรรู้จักวิธีการใส่ปุ๋ย อย่างถูกวิธี และควรรู้ว่าปุ๋ยชนิดไหนช่วยอะไรบ้าง
1.การใส่ปุ๋ยควรใส่ครั้งละน้อย ๆ แต่บ่อยครั้ง เพื่อให้พรรณไม้น้ำได้นำไปใช้อย่างเต็มที่ ไม่ควรใช้มากเกินไปเพราะจะทำให้เหลือใช้
2.ควรจำกัดปริมาณ สารอาหารที่ไปเร่งการเจริญเติบโตของ ตะไคร่น้ำเช่น พวกแร่ธาตุ ฟอสเฟตอิออน หรือ ไนเตรตอิออน หากเกิดตะไคร่น้ำมากใช้พวกน้ำยากำจัดตะไคร่น้ำ ก็จะช่วยได้ หรือใส่ปลากินตะไคร่น้ำ
สารอาหารเป็นออกเป็นประเภทได้แก่ สารอาหารหลัก และสารอาหารรอง เรามาดูกันว่าพรรณไม้น้ำต้องการสารอาหารอะไรบ้าง
วัสดุปลูก
จะมีการใช้กรวดเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากสามารถดูแลรักษาง่ายกว่าการใช้ดินแดงหรือดินลูกรัง และพรรณไม้น้ำบางชนิดก็ใช้ขอนไม้ในการปลุก เช่นต้นอานูเบียส ข้อควรระวังในการใช้กรวดปะการังรองพื้น เนื่องจากกรวดปะการังมีแคลเซียมคาร์บอเนตเป็นส่วนประกอบ สารพวกนี้จะทำให้น้ำกระด้างไม่เหมาะสำหรับเลี้ยงพรรณไม้น้ำ และปลา ทดสอบได้โดยการหยดน้ำส้มสารชูลงบนกรวดจะเกิดเป็นฟองไม่แนะนำให้นำมาใช้
กรวด สามารถหาได้ง่ายตามร้านขายปลาสวยงาม คุณสมบัติของกรวดที่จะนำมาใช้รองพื้นคือ ขนาดไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป (ขนาดประมาณ 2-3 มิลลิเมตร) เนื่องจากกรวดเล็กเกินไปจะทำให้การชอนไชของรากทำได้ไม่ดี
ดินแดง หรือดินลูกรัง ก่อนใส่ดินให้นำกรวดปูพื้นก่อน แล้วค่อยนำดินที่ได้มาทับอีกชั้น ข้อดีของดินประเภทนี้คือมีแร่ธาตุเหล็กผมสมอยู่ในปริมาณมาก ทำให้เป็นประโยชน์ต่อพรรณไม้น้ำ บางท่านอาจสงสัยว่าใช้ดินสำหรับปลูกต้นไม้ทั่วไปได้หรือไม่ ดินสำหรับปลูกต้นไม้ทั่วไปจะมีสารประกอบอินทรีย์ปนอยู่มากทำให้ไม่เหมาะสำหรับการนำมาใช้
ขอนไม้ ต้นไม้บางชนิดอาศัยพวกขอนไม้ในการเจริญเติบโต เช่นอานูเบียส หรือพวกเฟริน มอส เป็นต้น ก่อนจะนำขอนไม้มาใช้ควรนำไปแช่น้ำก่อน เพื่อให้สีของไม้ละลายออกให้หมด
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซนี้ต้นไม้จะนำไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง โดยใช้รวมกับแสง การให้ CO2 ในปริมาณที่เหมาะสมจะทำให้พรรณไม้น้ำเจริญเติบโตได้ดี ปริมาณ CO2 ในน้ำสามารถตรวจได้โดยการใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ตรวจวัดค่า ph และ kh ก็ได้ ค่า ph เป็นตัวบ่งบอกว่า มี CO2 อยู่ในน้ำมากหรือน้อย เช่น ค่า ph สูงหมายถึงปริมาณ CO2 ต่ำเป็นต้น
ค่า pH ที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 6.4 ถึง 7.0 ปริมาณ CO2 ที่เหมาะสมอยู่ประมาณ 20-40 มิลลิกรัมต่อลิตร
วิธีการวัดทำได้ดังนี้ เช่น ค่า pH = 7.4 ค่า KH = 8 ดังนี้ปริมาณ CO2 = 9 มิลลิกรัมต่อลิตร จะเห็นว่ามีปริมาณของ CO2 น้อยกว่าที่กำหนด ให้ลด pH ไปที่ 7 หรือ 6.8 ก็จะได้ปริมาณ CO2 ที่ 24-37 มิลลิกรัมต่อลิตร (การเพิ่มค่า pH คือเพิ่ม CO2)
เราสามารถควบคุม CO2 ผ่านการนับฟองอากาศที่ถูกปล่อยออกมาจาก Bubble Counter (หาซื้อได้ที่ร้านขายพรรณไม้น้ำ)
เมื่อถึงเวลากลางคือให้ปิด CO2 เพราะพรรณไม้น้ำจะคาย CO2 ออกมาแทนออกซิเจนปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่ช่วยให้การละลาย CO2 ทำได้ดี โดยผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพไม่อุดตันง่าย
อุปกรณ์กรองน้ำ
เครื่องกรองน้ำ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ กรอกภายในตู้ และกรอกภาพนอกตู้เครื่องกรอกภายในมีทั้งระบบชีวภาพ และ ใช้วัสดุเคมีทั้งสองอย่างสามารถทำให้น้ำใสได้เหมือนกัน และการใช้งานเครื่องกรองภายในมีข้อควรระวังอยู่บางประการ คือไม่ควรนำกรวดปะการังใส่เข้าไปด้วย และการกรองด้วยสารเคมีมีถ่านกรอง พีท เรซินกรองพิเศษ เป็นต้น
ถ่านกรองน้ำ ช่วยดูดสีเหลืองของน้ำที่ออกมาจากของเสียปลา และกรองน้ำยาที่ใช้ในการรักษาด้วย ดังนั้นควรย้ายออกเมื่อใส่ยาให้กับปลา และถ่านก็จะดูดซึมแร่ธาตุบางส่วนไว้ ดังนั้นเมื่อน้ำใสแล้วก็ควรย้ายออกจากเครื่องกรอง
แผ่นกรองใต้ทราย ไม่ขอแนะนำให้ใช้เนื่องจากจะละลายปุ๋ยชั้นใต้กรวดออกมาเร็วเกินไปและฟองอากาศที่ผุดออกมาก็จะทำให้ CO2 ลดลง
เครื่องกรองภายนอก เป็นที่นิยมกันมากเพราะประหยัดเนื้อที่ ทำความสะอาดง่าย และยังเก็บตะกอนได้เป็นอย่างดี การใช้กรองภายนอกมีข้อควรระวังดังนี้
1.ไม่ควรให้น้ำที่กรองออกจากท่อกระทบน้ำแรงเกินไป เพราะจะทำให้ CO2 ลดลง และสารอาหารจะถูกออกซิไดซ์อีกด้วย
2.ดูขนาดเครื่องกรอง ให้เหมาะสมกับตู้ปลาโดยดูได้จากค่าที่ระบุที่เครื่องกรอง
บางครั้งอาจมีการใช้อุปกรณ์เสริมบางอย่าง เช่น เครื่องทำความร้อน และเครื่องทำความเย็น เพิ่มควบคุมอุณหภูมิของน้ำให้เหมาะสม
การปลูกพรรณไม้น้ำ
ในส่วนนี้มีความสำคัญตรงที่จะทำให้ตู้พรรณไม้น้ำดูสวยงามน่าชม อาจต้องใช้เวลาและประสพการณ์อยู่บ้าง แต่ถ้ามีความตั้งใจรังรองต้องออกมาดีแน่นอน
1.เราต้องเตรียมวัสดุปูพื้นก่อน โดยจะใช้กรวดเล็กหรือดินก็ได้ แต่แนะนำว่าเป็นกรวดจะดีกว่า เพราะดูแลรักษาง่ายกว่าการใช้ดิน
2.ปูกรวดทับปุ๋ยเม็ด ให้กรวดหนาประมาณ 3 นิ้ว
3.เติมน้ำลงไปประมาณ ครึ่งตู้ แต่ต้องระวังไม่ให้น้ำแรงเกินไป จนไปทำให้กรวดที่ปูไว้กระจาก
4.ทำความสะอาดพรรณไม้น้ำที่จะลงปลูกก่อน เพราะอาจมีหอยติดมาได้หรือพวกตะไคร่น้ำ ตัดใบที่เสียหรือไม่สวยออก และตัดรากที่เก่าออกไป เพื่อให้รากใหม่งอก
การจัดตู้พรรณไม้น้ำ
พรรณไม้น้ำจะถูกแบ่งออกเป็นไม้หลัง ไม้กลาง และไม้หน้า
ไม้หลัง ได้แก่ พรรณไม้น้ำที่มีความสูงมากโตเร็ว
ไม้กลาง เป็นพรรณไม้น้ำที่มีขนาดความสูงไม่มากนัก
ไม้หน้า เป็นพรรณไม้น้ำที่มีขนาดเล็กประเภทมอส
เรามาเริ่มลงมือกันดีกว่า เมื่อรองพื้นเสร็จแล้วก็นำพรรณไม้น้ำที่เตรียมไว้จัดลงตามตำแหน่งที่ต้องการ การนำพรรณไม้ลงครั้งแรกควรลงพรรณไม้น้ำจะนวนมาก แต่ไม่แน่นเกินไป เราเพราะถ้าลงน้อยการดูดซึมแร่ธาตุจะน้อยตามไปด้วย และจะทำให้เหลือใช้จนเป็นสาเหตุให้เกิดตะไคร่น้ำ
หลังจากนั้นเติมน้ำให้เต็ม ติดตั้งระบบกรองน้ำ และระบบ CO2 หลังจากเสร็จแล้วต้นไม้น้ำอาจไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ไม่ต้องตกใจครับ อีกประมาณ 2-3 วัน พรรณไม้น้ำก็จะเริ่มฟื้นตัว แต่ต้องเปิดไฟวันละ 6 ชั่วโมง และปริมาณ CO2 ต้องเหมาะสมด้วยครับ การปรับ CO2 ต้องค่อย ๆ ปรับถ้าคุณเลี้ยงปลาอยู่ด้วย เพราะถ้าปรับเร็วเกินไป ค่า pH จะเปลี่ยนแปลงเร็ว ปลาจะตายได้ครับ
หลังจาก 24 ชั่วโมง ให้ใส่ปลากินตะไคร่น้ำลงไป เพื่อป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำ และเติมปุ๋ยลงไปอีก
เมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่สอง ให้เปิดไป และ CO2 จาก 6 ชั่วโมง เป็น 7 ชั่วโมง 8 ชั่วโมง และ 10 ชั่วโมงในสัปดาห์ที่ 3 และ 4 ตามลำดับ
ถ่ายน้ำใน 7 วันแรก 25% เป็นเวลา 1 เดือน และ 25% ทุก 15 วัน หากในตู้เกิดหอย สามารถนำปลาปักเป้าหรือฟิชโช่ใส่ไปได้ครับ เพราะปลาพวกนี้จะไปกินหอย
อย่างไรก็ตามเมื่อจัดเรียบร้อยแล้วก็ต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่อยู่อย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ตู้พรรณไม้น้ำก็จะสวยงามตลอดเวลาครับ