Thursday, March 19, 2009

ปลาทองไม่ตาย เลี้ยงอย่างไร

ปลาทองไม่ตาย เลี้ยงอย่างไร

ปลาทองเป็นปลาซึ่งมิได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นปลาที่มนุษย์ผสมคัดพันธุ์ขึ้นมา จนได้ลูกปลาซึ่งมีลักษณะพิเศษเฉพาะออกมา หรือจะเรียกว่าเป็นปลาที่มีลักษณะพิกลพิการก็ได้ ซึ่งปลาเหล่านี้จะมีลักษณะค่อนข้างเปราะบางกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม ปลาทองจะไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เลยเมื่อถูกปล่อยให้อยู่ร่วมสังคมกับปลาชนิดอื่น(เคยสังเกตไหมครับ) การเลี้ยงปลาทองหากจะว่ากันไปแล้วก็ไม่ใช้เรื่องยากเย็นอะไร เพราะปลาสวยงามชนิดนี้จัดได้ว่าเป็นปลาที่มีความอึดดีอยู่แล้ว ที่สำคัญตอนซื้อต้องระวังปลาที่ป่วยอยู่แล้ว เพราะถ้าเรานำปลาป่วยมาเลี้ยง ต่อให้เลี้ยงดีแค่ไหนก็มีสิทธิตายได้ ดังนั้นเทคนิคการเลี้ยงปลาทองที่อยากแนะนำเพื่อให้ปลาทองอยู่กับเรานานๆ มีหลักพื้นฐานอยู่ 3 ข้อ


1.เลี้ยงในจำนวนที่เหมาะสม โดยดูจากภาชนะที่ใช้เลี้ยง ตู้ที่นิยมเลี้ยงส่วนมากเป็นตู้ขนาด 60 ซ.ม. ( 24 นิ้ว ) จะใช้เลี้ยงปลาทองที่มีความยาว 3-4 ซ.ม. ประมาณ 7-8 ตัว ถ้าหากตู้ปลาไม่ค่อยประดับอะไรมากนัก ควรติดตั้ง”แอร์ปั้ม” เพื่อเป็นการเพิ่มอากาศในตู้ปลา ถ้าหากแอร์ปั้มมีขนาดใหญ่ ตู้ปลาขนาด 60 ซ.ม. จะสามารถเลี้ยงได้ถึง 15-20 ตัว แต่ต้องคำนึงถึงระบบกรองน้ำด้วย เพราะปลายิ่งมากน้ำก็จะยิ่งสกปรกเร็ว

2.การให้อาหาร การกินอาหารมากเกินไป ก็เป็นสาเหตุหนึ่งของการทำให้ปลาเสียการทรงตัว ดังนั้นการให้อาหารทีละน้อยๆจึงเป็นเรื่องที่ดี ถ้าให้อาหารมากเกินไป ปลากินไม่หมดหรือกินไม่ทั่ว เศษอาหารที่จมลงพื้นตู้หรือก้นบ่อจะเริ่มทำให้น้ำสกปรกได้ง่าย ทำให้เป็นปัญหาต่อผู้เลี้ยงโดยทั่วกัน เพราะเมื่อให้อาหารมากจนเกินไป การย่อยสลายเริ่มเลวลง อาการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆเริ่มตามมา จะเห็นได้ชัดในช่วงหน้าหนาว

3.ระวังเรื่องคุณภาพน้ำที่แย่ลง สภาพน้ำที่แย่ลงนั้นสืบเนื่องได้หลายสาเหตุ เราควรจะเปลี่ยนน้ำใหม่เมื่อเจอสภาพน้ำดังนี้
-น้ำที่ขาวขุ่น
-เกิดเป็นฟองขาวขึ้น ไม่ยอมแตกหายไป
-ปลาทั้งหมดพร้อมใจลอยเชิดจมูกอยู่ตามผิวน้ำ -น้ำเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่นอย่างกะทันหัน อาจเพราะแบคทีเรีย หรือแอมโมเนียในน้ำสูงเกินไป ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นพื้นฐานของนักเลี้ยงปลาสวยงามเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่า คือ การติดตามดูแลเอาใจใส่เลี้ยงดูปลาของท่านอย่างใกล้ชิด จะเป็นการช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการสูญเสียปลาทองอันเป็นที่รักของท่านได้นะครับ